ข่าวสารและบทความ

Walk in closet

5 ข้อควรรู้ ! ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน

5 ข้อควรรู้! ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน

เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการใช้งานพื้นที่อย่างคุ้มค่า เพราะออกแบบการจัดวางได้อย่างลงตัว และมีฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์

1. ฟังก์ชั่นต้องเหมาะสมกับการใช้งาน
การติดตั้งเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินนั้นต้องทำมาจากความต้องการในการใช้งานเป็นหลัก และต้องตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างสะดวกสบายและครบถ้วน

2. ดีไซน์สวยงาม ใช้ได้จริง
การดีไซน์ต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเช่นกัน เพราะเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินที่มีดีไซน์สวยงามจะช่วยส่งเสริมบรรยากาศในการอยู่อาศัยและทำให้ห้องน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

3. ใช้วัสดุที่มีคุณภาพแข็งแรง ทนทาน
นอกเหนือจากวัสดุหลักในการทำเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินจะต้องมีคุณภาพแข็งแรงทนทานแล้ว อุปกรณ์ประกอบอย่างพวกบานพับ หรือรางเลื่อน ก็ต้องใช้ของที่มีคุณภาพดีด้วย เพราะอุปกรณ์ประกอบเหล่านี้ต้องมีการใช้งานอยู่ในชีวิตประจำวันในทุก ๆ วัน

4. ติดตั้งได้รวดเร็ว ใช้เวลาไม่นาน
การติดตั้งเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน เนื่องจากมีเป็นแบบสำเร็จมาแล้ว จึงสามารถกำหนดขอบเขตเรื่องเวลาได้ และยังลดปัญหาเรื่องฝุ่น

5. มีการรับประกันการใช้งาน
การรับประกันนับเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องไม่ลืมนำมาพิจารณาด้วยเช่นกัน เมื่อต้องตัดสินใจจะเลือกบริษัทรับเหมาที่มีการรับประกันและบริการหลังการขายที่ดีจะทำให้คุณมั่นใจได้มากขึ้นว่าเมื่อเกิดปัญหาใดๆ ขึ้นในภายหลัง

บ้าน

Tips and Tricksเคล็ดลับ การเลือกสี เฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับบ้าน

3 เคล็ดลับง่ายๆ การเลือกสี

1 เลือกสีที่ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย
2.การใช้สีไม้ธรรมชาติเพื่อความอบอุ่น
3.ใช้สีแบบสองโทน เพิ่มมิติและความน่าสนใจ

รับแขก

Tips and Tricksเปลี่ยนห้องเล็กให้ดูกว้างไม่ใช่เรื่องยาก! มาดูทริคการจัดพื้นที่ที่ช่วยให้บ้านคุณดูกว้างและน่าอยู่กว่าเดิม

เคล็ดลับการจัดพื้นที่ห้องเล็กให้ดูใหญ่ขึ้น

1. ใช้กระจก
กระจกช่วยสะท้อนแสงและทำให้ห้องดูขยายออกไป ใช้กระจกขนาดใหญ่หรือเพิ่มชิ้นงานกระจกบนผนังเพื่อเพิ่มความรู้สึกของพื้นที่

2. เลือกสีที่สว่างและเป็นกลาง
ใช้สีที่สว่างเช่น ขาว, ครีม, หรือสีเบจ สำหรับผนัง, เพดาน, และพื้น สีที่อ่อนช่วยให้ห้องดูโปร่งและกว้างขึ้น

3. เฟอร์นิเจอร์บิ้วอินและขนาดกะทัดรัด
เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับขนาดห้องและใช้เฟอร์นิเจอร์บิ้วอินหรือที่ซ่อนได้ เช่น เตียงที่มีพื้นที่เก็บของใต้เตียง, โต๊ะที่สามารถพับเก็บได้

ห้องนอนในฝัน

9.9 ไท่ซั่งแจกหนัก จัดเต็ม Built-In Design

✨9.9 ไท่ซั่งแจกหนัก จัดเต็ม ✨
เพียงแชร์ภาพห้องในฝันที่คุณอยากแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินในสไตล์ที่ใช่ 💫 พร้อมบอกเราว่าทำไมห้องนี้ถึงเป็นห้องที่ตอบโจทย์ที่สุดสำหรับคุณ 🏡
✨ ก็มีสิทธิรับของรางวัล ตกแต่งห้อง สุดพิเศษ 3 รางวัลมูลค่ารวมกว่า 3,000 บาท🎁
โอกาสมาแล้ว! อย่าพลาด มาเนรมิตห้องในฝันด้วยไอเดียที่เป็นตัวคุณ! 💥
ร่วมสนุกง่ายๆ แค่ไม่กี่ขั้นตอน แล้วเตรียมรับของรางวัลกันได้เลย!
กติกา
1. แชร์โพสนี้ เป็นสาธารณะ
2.โพสต์ภาพห้องในฝันของคุณใต้คอมเมนต์พร้อมแชร์ไอเดียของคุณ 💡
ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนสวย ห้องนั่งเล่นชิค ชิค หรือห้องครัวในฝัน 🏠
เงื่อนไขในการร่วมกิจกรรม
– สามารถร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่ 9 กันยายน 2024 – 19 กันยายน 2024
– ประกาศผู้โชคดีหน้าเพจ วันที่ 20 กันยายน 2024 เวลา 13.00
– บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาตัดสินผู้รับรางวัลจากคณะกรรมการภายในบริษัท
ห้องนอน

เฟอร์นิเจอร์ Fit in และ Built in ต่างกันอย่างไร ทำไมถึงต้องเลือก Built in

ปลดล็อคความสงสัย !! คลายปมให้กับผู้ที่กำลังคิดตกแต่งบ้าน ด้วยคำถามที่พบบ่อยว่า ‘เฟอร์นิเจอร์ Fit in กับ Built in ต่างกันอย่างไรควรเลือกใช้แบบไหนถึงจะคุ้มค่ากว่ากันน่ะ
Taishang Design เราก็เลยรวบรวมข้อมูลความแตกต่างของเฟอร์นิเจอร์ทั้ง 2 แบบนี้มาให้เพื่อนๆ ทุกคนได้ดูกันว่าจะมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
งานเฟอร์นิเจอร์แบบ Fit in จะมีรูปแบบสินค้าให้เราเลือกใช้งานตามงานดีไซน์ของบริษัทนั้นๆ แต่ งานเฟอร์นิเจอร์แบบ Built in เราสามารถเลือกดีไซน์สินค้าได้ตามความชอบ และความต้องการใช้งานเลยค่ะ การจัดวางพื้นที่ Fit in มีรูปแบบสำเร็จ ไม่ support ตามขนาดพื้นที่หน้างาน Built in มีขนาดไม่ตายตัวสามารถ support ตามขนาดพื้นที่หน้างานจริง
อายุการใช้งาน Fit in มีความแข็งแรงทนทานอยู่ที่การใช้งานอายุการใช้งาน 3-5 ปี
Built-Iin ความแข็งแรงทนทานมากกว่าอายุการใช้งาน 15 ถึง 20 ปี
ดังนั้น เฟอร์นิเจอร์ Built in จึงตอบโจทย์มากกว่าเฟอร์นิเจอร์ Fit in ลูกค้าจึงเลือกใช้ งานเฟอร์นิเจอร์ Built in มากกว่า Fit in นั่นเอง

Walk in closet

ตกแต่งบ้านอย่างไรไม่ให้งบบานปลาย

Taishang Design เรามีข้อแนะนำดี ๆ 4 ข้อที่จะช่วยให้การตกแต่งบ้านใหม่อยู่ในงบประมาณ ไม่มีงบบานปลายแน่นอน

1. ตั้งงบประมาณที่เต็มใจจะจ่ายเริ่มต้นจากสำรวจเงินในกระเป๋าสักหน่อยว่า เรามีงบประมาณที่สามารถจ่ายได้อยู่เท่าไหร่ ตั้งงบที่เราเต็มใจจะจ่าย จากนั้นบวกเพิ่มไปอีก 15-20% สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายเผื่อเหลือเผื่อขาด ซึ่งค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ที่มักจะเกิดขึ้นมีอยู่ 3 ส่วน ดังนี้

  • ค่าใช้จ่ายในการจ้างมัณฑนากรหรือสถาปนิกมาออกแบบ-ตกแต่ง และคุมงาน
  • ค่าจ้างช่างก่อสร้างหรือผู้รับเหมา
  • ค่าวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งบ้านทั้งหลาย ซึ่งข้อนี้สามารถเพิ่มหรือลดได้ตามคุณภาพหรือเกรดของสินค้าที่เลือกใช้

2. ออกแบบให้จบตั้งแต่อยู่ในกระดาษ เราควรปรึกษาและตกลงกับสถาปนิกให้เข้าใจตรงกันก่อนลงมือสร้างจริง จะได้ไม่ต้องเจอเหตุการณ์สร้างออกมาไม่ตรงแบบแล้วมีค่าเสียหายในการรื้อสร้างใหม่อีก ทั้งเสียเวลาและเสียเงินโดยไม่จำเป็นด้วย ซึ่งการจ้างสถาปนิกมีทั้งที่เป็นรูปแบบบริษัท และที่เป็นนักออกแบบอิสระ หากเลือกใช้บริการกับบริษัทที่รับออกแบบบ้านโดยเฉพาะ ก็อาจมีข้อตกลงที่รัดกุมมากขึ้น เช่น สามารถปรับแก้งานได้ไม่เกิน 3 ครั้ง เป็นต้น แต่ถ้าอยากประหยัดงบ การเลือกใช้นักออกแบบอิสระก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

3. เลือกวิธีดำเนินการให้เหมาะกับเรา ในการตกแต่งบ้านมีวิธีการดำเนินการอยู่หลายวิธี การเลือกวิธีที่เหมาะสมกับเราจะช่วยประหยัดงบประมาณได้มากทีเดียว จ้างบริษัทออกแบบ ตกแต่ง และดำเนินการแบบเบ็ดเสร็จ
วิธีนี้ทางบริษัทจะจัดการให้หมดตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งออกแบบ หาสถาปนิกมาคุมงานผู้รับเหมา จัดหาวัสดุมาให้เลือก เหมาะกับผู้ที่มีเวลาน้อย ไม่สามารถลงมาคุมงานหรือหาซื้อวัสดุเองได้

4. เลือกวัสดุให้เหมาะสม หลายครั้งที่เราใช้งบประมาณเกินจากที่วางไว้ เพราะเลือกใช้วัสดุที่ไม่เหมาะสม หรือนำไปใช้ไม่ถูกวัตถุประสงค์ โดยอาจจะเกิดจากความไม่รู้ ควรคำนวณระดับการใช้งานของแต่ละพื้นที่และเลือกวัสดุที่เหมาะสมมาใช้ เช่น ห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่นที่ต้องใช้งานบ่อย ควรเลือกใช้วัสดุที่ทนทาน เหมาะกับการใช้งาน และราคาสมเหตุสมผล

จากข้อแนะนำ 4 ข้อที่กล่าวมานี้ คงพอเป็นไอเดียให้เพื่อน ๆ ที่กำลังวางแผนตกแต่งหรือต่อเติมบ้านให้คำนวณค่าใช้จ่ายได้คร่าว ๆ แล้ว แต่หากคำนวณอย่างไรหรือหักลดค่าใช้จ่ายอย่างไรก็ยังไม่พอเสียที Taishang Design เราเป็นบริษัทออกแบบตกแต่งที่มีโรงงานผลิตเป็นของตัวเองจึงสามารถคุมงบประมาณให้ลูกค้าให้อยู่ใน budget ได้โดยที่ไม่บานปลายได้อย่างแน่นอน